ระบบ One Pedal คืออะไร? ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นถึงเลือกใช้!

เผยแพร่โดย เมื่อ

Editors%2 Fimages%2 F1757489356078 1757489356078

(เครดิตรูปภาพ: Autoinfo)

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “รถยนต์ไฟฟ้า (EV)” กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หนึ่งในเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้คนพูดถึงอยู่บ่อยๆ คือ ระบบ One Pedal Driving หรือ “การขับขี่ด้วยแป้นเดียว” 

ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องใหม่และซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วเป็นนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการขับขี่นั่นเอง

ระบบ One Pedal คืออะไร

ระบบ One Pedal คือรูปแบบการขับขี่ที่ผู้ขับสามารถ เร่งและชะลอรถได้ด้วยแป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกบ่อยๆ เหมือนรถทั่วไป หลักการนี้อาศัยการทำงานของ ระบบ Regenerative Braking (ระบบเบรกที่สร้างพลังงานกลับคืน) เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจากคันเร่ง รถจะลดความเร็วลงอัตโนมัติด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าต้านการหมุนของล้อ พร้อมกับเปลี่ยนพลังงานที่เหลือกลับไปเก็บในแบตเตอรี่

หลักการทำงานของ One Pedal

  1. เหยียบคันเร่ง → รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเหมือนปกติ

  2. ถอนคันเร่งบางส่วน → รถชะลอความเร็วลงอย่างนุ่มนวล โดยมอเตอร์ไฟฟ้าดึงพลังงานกลับมา

  3. ถอนคันเร่งหมด → รถจะชะลอแรงขึ้นจนเกือบหยุด (แล้วแต่การตั้งค่า)

  4. เบรกเท้า → ยังมีให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อต้องหยุดสนิทแบบเร่งด่วน

ข้อดีของระบบ One Pedal

  • ขับง่ายและสะดวก ลดการสลับเท้าไปมาระหว่างคันเร่งกับเบรก

  • ประหยัดพลังงาน เพราะพลังงานที่สูญเสียตอนเบรกสามารถนำกลับไปชาร์จแบตเตอรี่

  • ช่วยยืดอายุเบรก เพราะการชะลอส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์ ไม่ใช่ผ้าเบรก

  • การควบคุมที่แม่นยำ เหมาะกับการขับในเมืองที่ต้องหยุดบ่อย

ข้อจำกัดหรือข้อเสีย

  • ต้องใช้เวลาปรับตัว คนที่เพิ่งเคยขับอาจรู้สึกว่ารถหน่วงแรงเกินไป

  • ไม่เหมาะกับบางสถานการณ์ เช่น การลงเขายาวๆ ที่ต้องใช้เบรกเสริมเพื่อความปลอดภัย

  • ไม่ใช่ทุกรุ่นที่มี รถไฟฟ้าบางรุ่นสามารถเปิด-ปิด One Pedal ได้ แต่บางรุ่นไม่รองรับ

รถรุ่นที่มีระบบ One Pedal

  • Nissan Leaf (เป็นรุ่นแรกๆ ที่ทำให้ระบบนี้โด่งดังในตลาดโลก)

  • Tesla หลายรุ่นที่ปรับระดับหน่วงได้

  • Hyundai IONIQ 5 / Kia EV6 / BMW iX และอีกหลายค่ายที่เริ่มนำมาใช้

สรุป

ระบบ One Pedal คือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีการขับขี่ให้แตกต่างจากรถสันดาปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง มันช่วยให้การขับง่ายขึ้น ประหยัดพลังงาน และทำให้ประสบการณ์การขับขี่ในเมืองสะดวกสบายขึ้นมาก แม้จะต้องใช้เวลาปรับตัวบ้าง แต่ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของโลกยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตเลยทีเดียว!

รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!

อ่านเพิ่มเติม: 6 วิธีเพิ่มระยะทางขับขี่รถไฟฟ้า (EV) ง่ายๆ ไม่ต้องแวะชาร์จบ่อย!


ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…

0 ความคิดเห็น